เรื่องลึกลับทางการแพทย์ : คดีปริศนาคนไฟลุก ..คนติดไฟได้เอง ( Spontaneous Human Combustion )
หมอเฉพาะทางบาทเดียว หมอเฉพาะทางบาทเดียว
282K subscribers
56,300 views
2.9K

 Published On Apr 11, 2024

เรื่องลึกลับทางการแพทย์ : คดีปริศนาคนไฟลุก คนติดไฟได้เอง ( Spontaneous Human Combustion )
Spontaneous Human Combustion คดีปริศนาคนไฟลุก
ปรากฏการณ์ คนไฟลุก หรือ เหตุการณ์ Spontaneous human combustion (ปรากฏการณ์เผาไหม้ร่างมนุษย์) โดยเป็นเหตุการณ์ที่ ศีรษะและร่างกายของมนุษย์เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่สิ่งรอบตัว เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ต่างๆภายในห้องแทบจะไม่ได้รับความเสียหายเลย โดยเหตุการณ์นี้มีมานานแสนนาน และเกิดขึ้นซ้ำๆกันหลายครั้ง ดังนั้นก็จะไปค้นหาสาเหตุว่าเหตุการณ์นี้เกิดได้อย่างไร จึงควรจะไปดูตัวอย่างของเหตุการณ์นี้กันเสียก่อน
เหตุการณ์ Spontaneous human combustion ที่มีชื่อเสียง

John Irving Bentley
ดอกเตอร์จอห์น เออร์วิ่ง เบนท์เลย์ (1874 – 1966) ถูกเผาอย่างลึกลับในห้องน้ำบ้านของเขา ที่รัฐเพนซิลวาเนีย โดยในวันที่เกิดเหตุมีคนพบเห็นเขามีชีวิตอยู่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1966 จนกระทุ้งเช้าวันถัดมา นายกออสเนส ไปที่บ้านของเขา และพบควันสีดำออกน้ำเงินลอยคลุ้งและมีกลิ่นเหม็นฉุน เขาจึงตามหาที่มาของควันเหล่านั้น จึงได้พลกับร่างของ เบนท์เลย์ ในสภาพเท้าถ่าน สวมแต่เพียงรองเท้าแตะอยู่เท่านั้น

ผลการชันสูตร – การชันสูตรครั้งแรกลันทึกว่า เบนท์เลย์ หายใจไม่ออก และถูกเพลิงเผาไหม้ไปกว่า 90% ของร่างกาย


Henry Thomas

เฮนรี่ โธมัส ถูกพบศพในห้องนั่งเล่นบ้านของเขาทางภาคใต้ของเวลล์ ในปี 1980 โดยร่างกายถูกเผาไหม้เป็นขี้เถ้า เหลือแต่เพียงกะโหลกศีรษะและส่วนของขาใต้เข่าลงมาเพียงเท่านั้น ที่แปลกคือ ไฟไม่ได้มีการลาดไหม้บ้าน ไหม้แต่เพียงเฉพาะบริเวณที่ผู้ตายอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีการตายของ โธมัส ถูกตั้งข้อสันนิฐานว่าน่าจะเป็นทฤษฏีไส้เทียน (Wick effect) ซึ่งบทความนี้จะกล่าวถึงในส่วนหลัง


The Death of Mary Reeser

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 1951 รัฐฟลอริด้า เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คุณนายคาร์เพนเตอร์เจ้าของห้องเช่า ได้พบร่างของ แมรี่ รีเซอร์ในสภาพขี้เถ้าที่เผาไหม้อยู่บนเก้าอี้ที่เธอนั่ง ตัวเธอถูกเผาจนเหลือแต่เพียงถ้วยกาแฟ ส่วนอื่นๆที่ยังเหลือก็มีเพียงกระดูกสันหลัง และข้อเท้าซ้ายเท่านั้น โดยกรณีนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่กรณีที่ถูกตรวจสอบโดย FBI

Michael Faherty
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2010 , ไมเคิล ฟาเฮอร์ตี้ ถูกพบเป็นศพเหลือแต่ขี้เถ้าในห้องนั่งเล่นบ้านของเขาใน ไอร์แลนด์ โดยกรณีการตายของเขานี้ เขาถูกพบเป็นศพบริเวณเคาผิง ไฟนั้นทำความเสียหายเฉพาะร่างกายเท่านั้น และไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆเลยที่ได้รับความเสียหาย ซึ่ง ดร. Ciaran McLoughlin หมอผู้ทำการชันสูตรศพ ได้สรัปว่าเป็นปรากฏการณ์เผาไหม้ในร่างมนุษย์อย่างแท้จริง



แน่นอนว่าเรื่องลึกลับเหล่านี้ก็ย่อมต้องมีสมมุติฐานทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้
มีสมมุติฐาน จำนวนมากที่กล่าวถึงการเกิดคนไฟลุก แต่มันก็ยังมีข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้สมมุติฐานนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน

สมมุติฐาน ก๊าซมีเทน (เป็นก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลาย ของ สารอินทรีย์) ในลำไส้ เกิดการลุกติดไฟโดย เอ็นไซค์(Enzymes) แต่ จากสภาพศพ ก็มีข้อขัดแย้ง กับ สมมุติฐานนี้่ คือ ศพเกือบทั้งหมดจะมีลักษณะเกิดเพลิงลุกไหม้จากภายนอก เข้าไปด้านใน มิใช่การลุกไหม้จาก อวัยวะในร่างกายออกมาด้านนอกตามสมมุติฐาน

สมมุติฐาน ขี้เมา สิงฆ์อมควัน เมื่อดื่มสุราอย่างหนัก แล้วสูบบุหรี่ แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์(Ethanol)ในเลือดต้องมากถึง 23% ถึงจะทำให้มนุษย์เกิดเพลิงลุกติดไฟได้ แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่มีปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์ในเส้นเลือด มากกว่า 0.40% ก็มีผลทำให้มนุษย์เสียชีวิต จากพิษแอลกอฮอล์ แล้ว

สมมุติฐาน ไฟฟ้าสถิต จากเสื้อผ้าที่สวมใส่เสียดสีกัน แล้วเดินผ่านพรม นอนลงที่ผ้าปูที่นอน นั่งบนโซฟาทำให้เกิดการประกายไฟขึ้น แต่ก็มีข้อใต้แย้งว่า ประกายไฟจากสมมุติฐานนี้น้อยกว่า 1 จูล แต่ประกายไฟจากไฟฟ้าสถิตที่มากพอจะให้เสื้อผ้าลุกไหม้ต้องมากถึง หลายพัน โวลต์


ท้ายที่สุด นักวิทยาศาสตร์ ยอมรับกับการอธิบายในแง่ ผลแบบไส้เทียนไข (Wick effect) โดยมีคำอธิบายดังนี้
เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ โดยก่อนหมดสติ ผู้เคราะห์ร้ายกำลังทำกิจกรรม อะไรบางอย่างเช่น สูบบุหรี่ ทำครัว รีดผ้า อยู่ใกล้เผาผิง หรือ แหล่งความร้อนอื่นๆ
สมมุติฐานนี้เปรียบร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายเหมือนเทียนไข,ไขมันในร่างกายมนุษย์เปรียบเสมือนไขเทียน(น้ำตาเทียน) เสื้อผ้าและเส้นผมเปรียบเสมือนไส้เทียน
เมื่อไขมันไหลซึม ละลายออกมาเนื่องจากความร้อนที่ลุกไหม้เสื้อผ้า ไขมันเหล่านี้จะไหลซึมเข้าสู่เสื้อผ้า ทำให้กลายเป็นเหมือนขี้ผึ้งที่ซึมเข้าสู่ไส้เทียน ที่กันไม่ให้ไส้เทียนไหม้เป็นเถ้า?และเกิดการลุกไหม้อย่างช้า ไปเรื่อยๆ เท่าที่ยังมีไขมันไหลออกมาเติม ด้วยโมเดลนี้ร่างกายสามารถ ไหม้อย่างช้าจนเป็นเถ้าถ่าน โดยที่แขน ขา ที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

Step 1 ช่วงแรก เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ แล้วเสื้อผ้าเกิดลุกติดไฟจาก บุหรี่ หรือ แหล่งความร้อนอื่นใดซักอย่าง

Step 2 ช่วงที่ 2 ความร้อนที่เกิดจากการลุกไหม้บนเสื้อผ้า ได้ละลายไขมันภายในร่างกายออกมา และเสื้อผ้าก็จะดูดไขมันเหล่านั้นไว้ แล้วค่อยๆลุกไหม้ไปอย่างช้า

Step 3 ช่วงที่ 3 ความร้อนจากการเผาไหม้เป็นระยะเวลานาน จนทำให้ร่างกายไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไขมันบางส่วนจะไหล และละเหยติดตามพื้นที่ต่างเป็นคราบน้ำมัน ส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม จะไม่ได้รับความเสียหาย

show more

Share/Embed