โซเชียลแฉ ! "หมอปลอม" โผล่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ | ห้องข่าวภาคเที่ยง
Ch7HDNews Ch7HDNews
3.32M subscribers
8,098 views
682

 Published On Oct 10, 2024

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ฉาวไม่พัก เพราะถูกแฉไม่เลิก ! ล่าสุด เพจฯ ดังออกมาแฉ ธุรกิจยักษ์ใหญ่อีกแล้ว บอกว่า บอสใหญ่ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้ สวมบทพิธีกร แท้จริงแล้วอาจจะเป็นหมอปลอม

โซเชียลแฉ ! หมอปลอมโผล่ธุรกิจยักษ์ใหญ่
โดยเพจฯ ดัง ออกมาแฉว่า หมอเอก ผู้บริหารธุรกิจยักษ์ใหญ่ เป็นหมอที่ไม่ได้จบหมอ แต่อ้างว่าตัวเองเป็นหมอ พอนำชื้อจริง นามสกุลไปค้นในระบบของแพทยสภา กลับไม่พบชื่อของหมอเอก นพ.ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ

นั่นหมายความว่า หมอเอก ไม่ใช่หมอที่แพทยสภารับรอง แต่กลับสวมชุดหมอ และห้อย STETH ตรวจคนไข้ เป็นชุดออกงาน ขึ้นเวทีเป็นวิทยากร ในฐานะหมอผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและสุขภาพ เป็นที่ปรึกษาให้กับคลินิก และโรงพยาบาลชั้นนำ การันตีรางวัลมากมาย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ หมอปลอม หรือ ไม่ปลอม ต้องรอทางเจ้าของธุรกิจออกมาชี้แจง

ผู้เสียหายธุรกิจใหญ่ แจ้งความถูกหลอกลวง
ด้านผู้เสียหายเริ่มแสดงตัวกันเรื่อย ๆ ทยอยเข้าแจ้งความ วันนี้ 10 ต.ค. ผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินมาพร้อมทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม รวมตัวกันมาที่กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อร้องทุกข์ กรณีถูกหลอกให้เป็นผู้ร่วมลงทุน

เหยื่อเปิดใจว่า หลวมตัวเข้าร่วมการลงทุน เพราะเชื่อมั่นในตัวพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นดาราแถวหน้าของเมืองไทย พูดจาโน้มน้าวชวนลงทุน ได้กำไรแน่นอน แต่เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนเป็นลูกทีม ปรากฏว่าถูกพาเข้าไปเรียนคอร์สต่าง ๆ

โดยแต่ละคอร์สต้องเสียเงินค่าเข้าครั้งละประมาณ 2,500 บาท และทุกครั้งจะจบที่การโฆษณาดึงดูดใจ ในทำนองว่า ถ้าคุณไม่เข้าร่วม คุณจะพลาดเงินล้าน พอผู้เสียหายหลงเชื่อ อยากจะจับเงินล้าน ก็สมัครเรียน และต้องทำตามเป้าหมาย คือ หาเครือข่ายมาร่วมลงทุน โดยวิทยากรสอนสคลิปต์ให้ด้วย พูดอย่างไรให้คนสนใจ เชิญชวนมาต่อยอดธุรกิจ แต่เงินทุนต่าง ๆ ให้ไปหาเอาเอง จนบางคน ล้มไม่เป็นท่า

ทั้งนี้ ยังมีการหลอกล่อให้เป็นหุ้นส่วนบริษัทและเปิดสาขาย่อย อ้างว่าจะได้กำไรมากกว่าเป็นตัวแทนเครือข่าย ซึ่งที่ผ่านมาเหยื่อทุกคนไม่เคยมีใครได้กำไร ยิ่งทำยิ่งจน ส่วนคนที่รวยคือเจ้าของบริษัท

ทั้งนี้ ทางทนายจะยื่นเรื่องให้ ปคบ. พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน, แชร์ลูกโซ่, พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค, พรบ.ขายตรง และพรบ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ?

ผู้เสียหายอีกกลุ่มมาที่ บก.ปคบ. เช่นกัน พร้อมกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยทนายเดชาบอกว่า เก็บข้อมูลเรื่องนี้มาสักระยะแล้ว จนเริ่มมั่นใจว่าเป็นธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค ต้องสงสัยว่าเป็นการกลายพันธุ์จากจดทะเบียนตลาดแบบตรง เป็นธุรกิจขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่ 

โดยตนเองได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้รวบรวมผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเริ่มต้นการสอบสวน

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ทางศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง พาผู้เสียหายกว่า 10 คน จากธุรกิจดังกล่าว ยื่นเรื่องร้องเรียนหลังได้รับความเสียหายจากการร่วมลงทุน

โดย สคบ. เปิดเผยว่า เบื้องต้นธุรกิจนี้ ผิดแผนการขอใบอนุญาต เนื่องจากเป็นการขายสินค้าแบบตรงในรูปแบบออนไลน์ ไม่ใช่การขายตรง ซึ่งจากข้อมูลร้องเรียน ผ่านระบบออนไลน์ มีผู้เสียหายแจ้งเรื่องมาเกือบ 100 คน โดยคนที่เสียหายที่ลงทุนไปมากที่สุดกับสินค้า สูญเงินไปถึง 5 ล้านบาท ขณะที่บางคนลงทุนไปกับค่าโฆษณา หวังเอาดีทางธุรกิจนี้ ยิงโฆษณาไปกว่า 8 ล้านบาท แต่ไม่ได้ผลตอบแทนเลย

ในส่วนของดารา อินฟลูอินเซอร์ ก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เพราะเป็นหนึ่งในผู้สร้างความเชื่อถือ และรับผลประโยชน์

เตรียมเรียก ดารา-อินฟลูเอนเซอร์ ให้ข้อมูล
สคบ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าธุรกิจนี้ เข้าข่ายความผิดในฐานธุรกิจแบบขายตรงหรือไม่ ที่สำคัญต้องดูว่าเข้าข่ายการฉ้อโกงด้วยหรือเปล่า ?

เบื้องต้น สคบ.ได้พูดคุยกับ DSI ในเรื่องนี้ โดยในสัปดาห์นี้ ทางสคบ. จะลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบยังบริษัทที่ตั้ง และสัปดาห์หน้าจะเรียกดารา-อินฟลูอินเซอร์ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล

ซึ่งหากธุรกิจนี้มีความผิดจริง คนที่มีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการ จะถือว่ามีความผิดร่วมด้วย ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่มีการพูดเชิญชวน ต้องพิจารณาอีกทีว่า เข้าข่ายเจตนาชักชวนให้เชื่อหรือไม่

อีกประเด็นที่หลายคนสนใจ คือ ธุรกิจดังกล่าว ได้รับรางวัลเป็นธุรกิจที่รับผิดชอบต่อผู้บริโภคเสมอมา และในฐานะองค์กร/หน่วยงาน ที่ทำคุณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ปี 2565 จาก สคบ.

คำถามหลังจากนี้ คือ สคบ.จะเอาอย่างไรต่อ ? เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ จนมีผู้เสียหายมากมาย ซึ่งจากการสอบถามผู้ใหญ่ทาง สคบ. ในปีที่มอบรางวัลให้ ธุรกิจดังกล่าวเข้าเกณฑ์พอดี และยังไม่มีเรื่องอื้อฉาว แต่หลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบโครงสร้างธุรกิจอย่างละเอียด หากมีความผิดส่งผลต่อผู้บริโภค จะพิจารณาปลดโล่รางวัลของผู้บริหารยักษ์ใหญ่

ตร.เปิดหมายเลข 1599 รับแจ้งความเดือดร้อน
ไปส่องดูในเฟซบุ๊ก ก็มีเพจฯ หนึ่งที่เปิดขึ้นมาเมื่อวาน ใช้ชื่อเพจฯ คล้าย ๆ กับชื่อบริษัทที่กำลังเป็นประเด็นข่าว ต่อท้ายด้วยคำว่า หลักฐานแชร์ลูกโซ่ อ้างว่าได้ข้อมูลที่มาจากการแฮ็กข้อมูลบริษัท

ความจุมากถึง 161 กิกกะไบต์ เป็นข้อมูลช่วงปี 2022-2024 ยืนยันว่ามีรายละเอียดของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ไปจนถึงงบการเงิน ก่อนจะเริ่มทยอยปล่อยข้อมูลทางการเงินออกมาให้ดูเรื่อย ๆ

กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com

#ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero

show more

Share/Embed