สว.เห็นชอบ 'เสียงข้างมาก 2 ชั้น' ทำประชามติ - 'นันทนา' ชี้ทำแบบนี้ ชาวบ้านมองทำตามใบสั่ง
เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเล่าเช้านี้
11.4M subscribers
4,516 views
45

 Published On Sep 30, 2024

วานนี้ (30 ก.ย. 67) ที่รัฐสภา ในประชุมวุฒิสภา (สว.) ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ปรธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ลุกอภิปรายคนแรกในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ลุกขึ้นอภิปรายในมาตรา 7 แก้ไขมาตรา 13 โดยระบุว่า ความจริงตนเองควรขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์แถลงผลการประชุมพิจารณา พ.ร.บ.ประชามติที่สนับสนุนร่างของสภาผู้แทนราษฎรอย่างราบรื่น ถึงตอนนี้ก็ยังงงว่า ทำไมตนเอง และกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล 5 คน จะต้องอภิปรายคัดค้านมติของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ทั้งที่การประชุมครั้งแรกทุกคนดูเหมือนจะยอมรับ และสนับสนุนแนวทางของเสียงข้างมากชั้นเดียวตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้เสนอมา

ตลอดการประชุม 4 ครั้งเรามีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน เช่น ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ศ.วุฒิสาร ตันไชย นายกฤช เอื้อวงศ์ นายนิกร จำนง ที่อภิปรายข้อดีของแนวทางเสียงข้างมากชั้นเดียวอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งกรรมาธิการขอให้ลงมติสนับสนุนไปในทิศทางเดียวกัน ปฏิเสธการแปรญัตติของนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.ที่เสนอให้มีการแก้ไขข้อความในมาตรา 13 ให้กลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการทำประชามติรัฐธรรมนูญ

ในการประชุมครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมาธิการเสนอให้ที่ประชุมทบทวนมติที่กรรมาธิการได้ลงมติไปการประชุมครั้งที่ 4 น่ามหัศจรรย์ที่กรรมการอภิปรายสนับสนุนโดยพร้อมเพรียง ก่อนลงมติเห็นชอบในมาตรา 13 ให้การทำประชามติต้องใช้เสียงข้างมากสองชั้น กล่าวคือให้มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

นางสาวนันทนา กล่าวต่อว่าในวันอังคารที่ 24 ก.ย.67 มีหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงตั้งคำถามว่าเป็นเหตุให้มีการกลับมติในวันพุธที่ 25 ก.ย.หรือไม่ การกลับมติโดยพร้อมเพรียงกันด้วยเสียง 17:1 มันไม่งาม ชาวบ้านจะนินทาว่าการลงมติครั้งนี้เป็นไปตามใบสั่ง

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย ยังได้อภิปรายว่า ขอสว.อย่าความจำสั้น เพราะการลงมติวาระแรก มีผู้ลงมติรับหลักการ 179 เสียง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญที่มีปัญหา ทำให้การเมืองไร้เสถียรภาพ ปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น ขอให้กฎหมายประชามติเป็นก้อนหินก้อนแรก เพื่อสร้างถนนประชาธิปไตย

ขณะที่ นายนิกร จำนง กมธ.เสียงข้างน้อยในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อภิปรายว่าไม่เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก เนื่องจากการศึกษาของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน และตนทำงานในคณะดังกล่าวพบว่า เกณฑ์ออกเสียงประชามติด้วยเสียงข้างมาก 2 ชั้น เป็นอุปสรรคที่ทำให้ประชามติผ่านยาก จึงเสนอให้แก้ไขให้ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ซึ่งเป็นฉบับที่เสนอให้วุฒิสภาพิจารณา

นายนิกร อภิปรายด้วยว่าหาก สว. เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก ต้องกลับไปสภาฯ ทั้งนี้ เชื่อว่าสภาฯ จะยืนยันตามร่างของตนเอง เพราะได้ลงมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ดังนั้น สิ่งที่ตามมาคือ ตั้ง กมธ.ร่วมกันฝ่ายละ 10 คน หากตกลงไม่ได้ ไม่มีข้อสรุป และส่งไปยังแต่ละสภา พิจารณา หากสภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบ ต้องถูกแขวนไว้ 180 วัน จากนั้นสภาฯ ถึงจะลงมติ ซึ่งจะใช้ร่างของสภาฯ ไม่ผ่านวุฒิสภา

นายนิกร จำนง ยังได้บอกอีกว่า สิ่งที่จะกระทบคือ รัฐธรรมนูญของประชาชนจะเกิดไม่ทันในรัฐสภาชุดนี้แน่ เพราะมีเวลาไม่ถึง 3 ปี แล้วใครจะรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ที่จะไม่มีรัฐธรรมนูญของประชาชน ตามที่คณะกรรมการฯ เล็งกันไว้ คือ ทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งท้องถิ่น วันที่ 2 ก.พ. 68 หากไม่ทันจะเพิ่มค่าใช้จ่าย ผมตั้งความหวังไว้ ผมอยากให้ สว.เห็นด้วยกับร่างของสภา ไม่เช่นนั้นจะสุ่มเสี่ยงถูกโทษว่ารั้งรัฐธรรมนูญของประชาชนไว้

นายนิกร อภิปรายด้วยว่า ตนขอเสนอวันและเวลา รวมถึงโอกาส คือ แม้สว.จะโหวตตามกมธ.ที่แก้ไข ส่งไปสภาฯ 9 ต.ค. พิจารณาตั้งกมธ. ร่วมกัน จากนั้น มีเวลา 16 - 23 ต.ค. กมธ.พิจารณาหาทางออก ต่อมา วันที่24 ต.ค. กมธ.ร่วมกันส่งให้สองสภา 28 ต.ค. วุฒิสภาเห็นชอบตามร่างของกมธ.ร่วมกัน จากนั้น 30 ต.ค. ให้ความเห็นชอบ และ 31 ต.ค. สามารถทำตามกระบวนการของการประกาศใช้กฎหมาย และสามารถทำประชามติได้ทันวันที่ 2 ก.พ. 68 แต่หากทำไม่ทันเวลาจะไหลไป ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของพรรคใด แต่เป็นเรื่องว่าจะมีรัฐธรมนูญของประชาชนในยุคสมัยนี้ได้หรือไม่

ส่วน นายพิสิษฐ์ อภิปรายว่าตนเสนอคำแปรญัตติให้กมธ.พิจารณาแก้ไข เพราะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขให้มีเสียงข้างมากเพียงชั้นเดียว ทั้งนี้ ที่ระบุว่า ไม่แก้ กลัวว่าประชามติไม่ผ่านนั้น หากเปรียบเทียบกับการทำประชามติรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 และ 2560 พบว่า ผู้ออกมาใช้สิทธิ และคะแนนเสียง ต่างผ่านเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทั้งสิ้น ดังนั้น อย่ามาอ้างว่าหลักการดังกล่าวจะทำให้การทำประชามติเป็นไปได้ยาก ส่วนที่ระบุเหตุผลว่า กลัวไม่ทันกับการเลือกตั้ง อบจ. ช่วง ก.พ. 68 ตนมองว่าสามารถใช้พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับปัจจุบัน ได้



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/political/mo...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)

วันที่ 1 ตุลาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok :   / morningnewsch3  

#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์

show more

Share/Embed