พระมหาบรรจบ ขนฺติโก ป.ธ.๘, ศน.บ.
ปัจจุบัน พระราชวชิรเวที

ผู้เฝ้ารักษาผืนดินแห่งนี้มาร่วม ๑๕ ปี (โดยท่านและผู้อุปถัมภ์มีอุบาสิกาภัสส์กุญช์ โสภณอนันต์กิจ เป็นต้น ได้ซื้อไว้) เพื่อรอคอยให้มีการเรียนการสอนภาษาบาลี - อังกฤษ ในแบบโรงเรียนศากยบุตรสามเณรสีหะ

พระมหาเถระผู้ถวายที่ดิน ให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม จำนวน ๓๖ ไร่ ๓ งาน ๗๒ ตารางวา ณ บ้านรางพิกุล อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เพื่อสร้าง โรงเรียนศากยบุตรสามเณรสีหะ เพื่อเปิดทำการเรียนการสอน Pali English Program

๑๖ เมษายน ๒๕๖๔ คณะผู้ริเริ่มและอุปถัมภ์โครงการ พันโทไพโรจน์ พนารินทร์ ผศ.ดร.สุธี แก้วเขียว ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และ ผม ได้เข้ากราบพระมหาเถระ เจ้าของที่ดิน และทราบเจตนาที่ท่านตั้งไว้เมื่อคราวเดินจาริกสมาทานธุดงควัตร ปักกลด ที่นี่ ท่านพูดเล่าเจตนาให้ฟังหลายเรื่อง (ผมได้รวบรวมเขียนเป็นข้อมูลไว้คงได้รับการตีพิมพ์เผยแผ่ในโอกาสต่อไป)

เมื่อกราบลาท่าน ท่านพูดสั้น ๆ ว่า "... ที่ดินแปลงนี้ ถ้าสร้างเป็นวัดก็เหมือนวัดทั่วไป มีอิฐหินปูนทราย เจดีย์ .... แต่มีนิมิตคอยมาย้ำเตือนอาตมาตลอดเวลา ๑๐ กว่าปี ห้ามอาตมาไม่ให้ทำสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลา จะมีผู้มีศักดิ์มาทำให้ ที่นี่ต้องมีภิกษุจากทิศทั้ง ๔ จากหลายชาติมาอาศัยที่นี่ อาตมาก็เชื่อตลอดว่า จะต้องเกิดขึ้นจริง จึงเฝ้าดูแลรอคอย... "

พันโทไพโรจน์ ผศ.ดร.สุธี และผม ได้ฟังท่านด้วยน้ำตาซึม ท่านรักษาที่ดิน ๓ แปลงนี้ มาตลอดเพื่อสิ่งนี้ แม้จะมีผู้ให้ปัจจัยหลายล้านเพื่อก่อสร้างเป็นวัดท่านก็ไม่ทำ ท่านจึงปิดที่ดินของท่านไม่ให้ใครเข้ามาเกี่ยวข้อง ปิดวาจาไม่พูดกับใครมาเป็นเวลาหลายปี

บันทึกช่วยจำ
เข้าพบครั้งที่ ๑
๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
พระเทพสุวรรณเมธี และคณะ เมื่อครั้งแรกพบ ท่านดีใจยกที่ดินถวาย ม มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆส ทันที

เข้าพบครั้งที่ ๒
๕ เมษายน ๒๕๖๔
พระเทพสุวรรณเมธี และคณะ เข้าพบเรื่องสร้างกุฏิประธานสงฆ์ถวายท่าน

เข้าพบครั้งมี่ ๓
๑๔ เมษายน ๒๕๖๔
พระเทพสุวรรณเมธี และคณะ เข้าพบทำบันทึกการมอบถวายที่ดิน ถึงมหาวิทยาลัย และพูดคุยปรึกษาเรื่องการสร้างกุฏิประธานสงฆ์

เข้าพบครั้งมี่ ๔
๑๖ เมษายน ๒๕๖๔
พันโทไพโรจน์ พนารินทร์ และคณะเข้ากราบเยี่ยมชมพื้นที่ รับฟังเรื่องราวเล่าความเป็นมาพื้นที่