กล้วยไม้ สกุลหวาย มีดอกได้ตลอดปี แค่เลี้ยงให้สมบูรณ์ สะสมอาหารให้เพียงพอ
Muuyehn Studio Muuyehn Studio
260K subscribers
367,612 views
10K

 Published On Apr 1, 2021

๐ กล้วยไม้ สกุลหวาย

๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Dendrobium spp. ชื่อสกุล Dendrobium มาจากคำภาษากรีกโบราณ 2 คำประกอบกัน คือ “Dendron” หมายถึง "ต้นไม้" และ “Bios” หมายถึง "ชีวิต" ในที่นี้หมายถึงต้นไม้ในสกุลนี้ส่วนใหญ่เป็นชนิดพันธุ์ที่มีอุปนิสัยในการเป็นไม้อิงอาศัย (Epiphytic)
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Dendrobium Orchid
๐ ชนิด (Type): กล้วยไม้อิงอาศัย (Epiphytic orchids) ส่วนใหญ่กล้วยไม้ในสกุลนี้เป็นไม้อิงอาศัย ซึ่งในธรรมชาติเติบโตขึ้นโดยเกาะบนกิ่งไม้และลำต้นของต้นไม้
๐ วงศ์ (Family): Orchidaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกหลายแห่ง และออสเตรเลีย
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 25-120 เซนติเมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 25-120 เซนติเมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ช่อดอกไม้แบบที่มีก้านดอกเล็กๆ แยกจากก้านใหญ่ ซึ่งสามารถมีดอกได้มากถึง 20 ดอก ดอกไม้มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกหลากสีตามชนิดพันธุ์ กลีบดอกทับซ้อนกับกลีบเลี้ยง สามารถควบคุมเลี้ยงดูต้นให้สมบูรณ์ให้ออกดอกได้ทั้งนี้
๐ ความต้องการแสง (Sun): แสงแดดทางอ้อม ทั้งนี้หากพืชอยู่ในร่มเงามากเกินไป ความหนาของใบจะลดลง ความแตกต่างของสีใบไม้จะจางหายไป
๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลาง
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต้องการการดูแลรักษาสูง
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ใช้เป็นไม้ตกแต่งสวนร้อนชื้นเพราะให้ดอกตลอดทั้งปี สร้างความสดใสให้กับสวนได้ดี ใช้เป็นไม้แขวน ไม้กระถาง หรือเกาะยึดกับต้นไม้ยืนต้น
๐ ใบไม้ (Leaf): ใบรูปไข่ ฐานใบป้าน ปลายใบแหลม เนื้อใบหนา

๐ การเพาะปลูก (Culture)
Dendrobium เป็นสกุลกล้วยไม้ขนาดใหญ่มีความหลากหลายในชนิดพันธุ์อย่างมาก รวมถึงมีความต้องการสิ่งแวดล้อมและการดูแลรักษาที่แตกต่างกันอย่างมากอีกด้วย สามารถเพาะปลูกและดูแลรักษาเลียนแบบการเติบโตในธรรมชาติ โดยให้น้ำตลอดช่วงฤดูฝน และให้น้ำประปรายในช่วงฤดูแล้ว การกระทำเช่นนี้ กล้วยไม้จะออกดอกในช่วงที่มีอาหารสะสมเพียงพอและมีความชื้นเหมาะสมเท่านั้น จึงเหมาะในการปลูกเลี้ยงตามคาคบไม้ หรือแขวนใต้ร่มเงาต้นไม้ในสวนธรรมชาติ ก็จะสามารถให้ดอกในบางฤดูกาลสร้างความสดใสให้กับสวนที่จัดเลียนแบบธรรมชาตินั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้บางชนิดพันธุ์ของกล้วยไม้สกุลหวายอาจมีความต้องการอุณหภูมิในการเจริญเติบโตและการออกดอกแตกต่างกัน จึงต้องเลือกชนิดพันธุ์กล้วยไม้สกุลหวายที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของสวนที่ต้องการปลูกเลี้ยงด้วย สถานที่การปลูกเลี้ยงควรวางในพื้นที่อันมีอากาศถ่ายเทดี สามารถรักษาความชื้นได้ดี หรือรักษาระดับความชื้นสัมพัทธ์ (Relative humidity) อย่างน้อยร้อยละ 50 ขึ้นไป

การขยายพันธุ์ ทำได้หลายวิธีการ อาทิ แยกลำ แยกหน่อ ปักชำต้นและยอด และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ


กล้วยไม้สกุลหวายจัดเป็นกล้วยไม้ประเภทแตกกอ (Sympodial) มีรูปทรงและการเจริญเติบโตที่คล้ายกับพืชที่แตกกอโดยทั่วไป กล่าวคือ ในต้นหนึ่ง ๆ หรือกอหนึ่ง ๆ นั้นจะมีต้นย่อยหลาย ๆ ต้น ประกอบเข้าด้วยกัน จะงอกต้นใหม่ออกไปทางด้านข้างนอกกอไปเรื่อย ๆ โดยลำต้นที่แท้จริงจมอยู่ในเครื่องปลูกหรือวัสดุปลูก โดยมีลำต้นเทียม (Pseudobulbs) หรือส่วนก้านใบที่เปลี่ยนแปลงรูปร่าง บวมเต่งขึ้นทำหน้าที่สะสมอาหาร โดยลำต้นเหล่านี้ยื่นออกมาจากเครื่องปลูก เรียกลำต้นส่วนนี้ว่า “ลำลูกกล้วย” มีระบบรากเป็นรากกึ่งดินและรากกึ่งอากาศ มีการเรียงตัวของใบเรียงสลับคนละฝั่ง ออกดอกได้ทั้งที่ตายอดและตาข้าง ดอกมีโคนเส้าเกสรยื่นยาวออกไป โดยมีลักษณะเชื่อมตัดกันกับกลีบรองดอก การถิดเมล็ดจะการการถือฝักและเมล็ด โดยปลายฝักจะห้อยชี้ลงดิน เมล็ดที่สมบูรณ์เมื่อแก่สมบูรณ์เต็มที่จะมีสีเหลือง สำหรับเมล็ดที่ลีบนั้นจะมีสีขาว



๐ ปัญหา (Problems)
มักพบการเข้าทำลายของทาก เพลี้ยไฟ ไรแดง บั่ว เป็นต้น สำหรับการปลูกเลี้ยงโดยการซื้อต้นพันธุ์จากการผลิตเพื่อการค้าจำนวนมาก ๆ มีโอกาสที่จะมีโรคจากแหล่งผลิต อาทิ โรคเน่าดำ โรคปื้นเหลือง โรคใบจุด โรคเหี่ยว (ฟิวซาเรี่ยม) โรคแอนแทรคโนส เป็นต้น


๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง

๐ Muuyehn Stuido หรือ มือเย็นสตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะจ๊ะ

show more

Share/Embed