เพลงราตรีประดับดาว เถา
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขยายขึ้นจากเพลงมอญดูดาว สองชั้น

เพลงนี้มีท่อนเดียว แต่ในสามชั้นมีเที่ยวเปลี่ยน
ท่อนที่ 1 จะบรรเลงด้วยทำนองที่ไพเราะอ่อนหวาน แสดงถึงความวิเวกวังเวง ซึ่ง วังเวง ในที่นี้เป็นคำโบราณแสดงถึงความไพเราะของเสียงอันเย็นฉ่ำชุ่มชื่นหัวใจ
ส่วนท่อน 2 จะมีการดำเนินทำนองด้วยวิธีเหลื่อม ล้อ ต่อขัด ซึ่งทำให้เพลงมีชีวิตชีวาเสมือนการเจราโต้ตอบกันผ่านเสียงดนตรี

นับว่าเป็นเพลงที่มีความพิเศษสำคัญ คือเป็น 1 ใน 3 เพลงพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 ที่ได้ทรงแสดงพระอัจฉริยภาพทางดนตรีผ่านบทเพลงทั้งทำนองทางเครื่องและทางร้องไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัณในวงการดนตรีไทย และยังคงเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถึงปัจจุบันนี้

ในครั้งนี้บรรเลงด้วยวงเครื่องสายผสมซอสามสาย
เครื่องบรรเลงทำนอง ได้แก่
ซอสามสาย ซอด้วง ซออู้ จะเข้ และขลุ่ยเพียงออ

เครื่องกำกับจังหวะ ได้แก่ โทนรำมะนา ฉิ่ง และกรับพวง
บรรเลงโดย ปริญญา ทัศนมาศ แต่เพียงผู้เดียว

แนวการบรรเลงในครั้งอยากให้เห็นถึงความหวานละมุน เยือกเย็นใจด้วยแนวที่ช้าอย่างแช่มช้อย ในสามชั้น แล้วลีบเรียวเป็นห่งหนูเมื่อเข้าใกล้จุดจบ การรักษาแนวในลักษณะนี้ยากมาก เพราะต้องคงแนวให้ได้ตามที่ต้องการ เพราะเผลอใจแล้ยอาจทำให้แนวเสีย คือฟุ่งขึ้นเกินเส้นกราฟหรือหย่อนเป็นตกท้องช้างได้
หากมีข้อผิดพลาเประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ถ่ายทำด้วย Iphone11
Appreciation FiLMiCPro
ตัดต่อด้วย KineMaster
ซอด้วง BLACK PEARL ฝีมืออาจารย์ธีรพันธุ์ ธรรมานุกูล

#ราตรีประดับดาว #parinyaohmo