#ลูกฆ่าพ่อแม่
ขี้เมี่ยง ชาแนล ขี้เมี่ยง ชาแนล
78.9K subscribers
28,561 views
453

 Published On Premiered Jan 16, 2023

เมืองคันธาธิราช ตั้งขึ้นเมื่อปีมะเส็ง จุลศักราช 147 (ปี พ.ศ. 1328) เมืองนี้ ตั้งอยู่นานเป็นพันปี มีเจ้าผู้ปกครองเมือง ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา หลายยุคหลายสมัย จนถึงยุคสมัยของท้าวลินจงครองเมือง จึงเกิดตำนานการสร้างพระพุทธรูปยืนสององค์
หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์ ผินพระพักตร์ไปทางทิศทักษิณ เป็นปูชนียวัตถุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์ อยู่ห่างกันประมาณ 1,250 เมตร ตามตำนาน หรือประวัติ ที่หาหลักฐานยืนยันได้จากใบเสมา ที่ฝังอยู่ใกล้องค์พระ เขียนเป็นภาษาขอม ว่า หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์ สร้างปีฮวดสง่า พุทธศักราช 1399 ปัจจุบัน ยังมีตัวอักษรปรากฏที่ใบเสมา แต่เลอะเลือนมากแล้ว ตามคำบอกเล่าสืบทอดกันมา มีผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า ได้รับฟังจากบรรพบุรุษเล่าว่า เดิมที่ดินแดนแถบนี้ ขอมได้ครอบครองมาก่อน ต่อมาทางนครเวียงจันทร์มีอำนาจ เข้าครอบครองจากขอม มีเจ้าผู้ครอบครองโดยอิสระ เรียกกันว่า “เมืองกันทาง” หรือ “เมืองคันธาธิราช” ก่อนปีมะเส็งจุลศักราช ( ปี พ.ศ.1328) ผู้ครองเมืองคนสุดท้ายนามว่า “ท้าวลินจง” ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หลวงบริเวณ” มีภรรยาชื่อ บัวคำ ปกครองราษฎร ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
ท้าวลินจงมีบุตรชายคนเดียวชื่อ ท้าวสิงห์โต หรือ ท้าวลินทอง ซึ่งเป็นผู้ที่มีจิตใจโหดเหี้ยมทารุณมาก ท้าวลินจงชราลง ก็ต้องการหาคนมาปกครองเมืองแทนตน หากให้ท้าวลินทองมาปกครองแทน ก็เป็นการไม่เหมาะสม จะเป็นเหตุให้ราษฎรต้องเดือดร้อน เพราะขาดความเมตตา เมื่อทราบถึงท้าวลินทอง ทำให้เกิดความโกรธแค้นผู้เป็นบิดายิ่งนัก จึงได้ตัดพ้อต่อว่าบิดาต่างๆ นานา แล้วบังคับให้บิดา ตั้งตนเป็นผู้ปกครองเมืองแทน ผู้เป็นบิดาไม่ยินยอม ท้าวลินทอง จึงจับผู้เป็นบิดาขัง ทรมานด้วยการเฆี่ยน ทุบตี ใช้มีดกรีดตามตัว เพื่อบังคับให้บิดายกเมืองให้ตน บิดาก็หาได้ยอมไม่ บิดาได้รับการทรมานต่อไป
โดยการโดนขังในห้องมืด ห้ามข้าว ห้ามน้ำ มิให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด นอกจากมารดาเพียงผู้เดียว แต่ไม่ให้นำน้ำนำอาหารไปให้บิดา มารดาได้ทัดทาน อ้อนวอนอย่างใด ท้าวลินทองก็หาฟังไม่ ด้วยความรักและความห่วงใยในสามี นางจึงทำอุบายนำข้าว น้ำ ให้เอาผ้าสะไบเฉียง ชุบข้าวบดผสมน้ำ นำไปเยี่ยมสามี ให้สามีดูดกินประทังชีวิตไปวันๆ แต่หาได้พ้นสายตาของท้าวลินทองไม่
ดังนั้น จึงห้ามให้เข้าเยี่ยมต่อไป ท้าวลินจง อดข้าว อดน้ำ ได้รับความทรมานแสนสาหัส และได้ถึงแก่ความตายในที่สุด แต่ก่อนจะสิ้นใจ ท้าวลินจงได้ตั้งอธิษฐาน ฝากเทพยดาผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ผู้สถิตย์อยู่ ณ พื้นธรณีนั้นว่า
“ด้วยจิตใจบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า เพื่อหวังความสงบสุขของบ้านเมือง อันเป็นที่ตั้งอยู่อาศัยของข้าพเจ้า แต่เหตุการณ์ในชีวิต กลับมีการเป็นไป ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ขอให้เทพยดาฟ้าดิน ผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ขอให้ข้าพเจ้าไปเกิดในที่สุขเถิด และขอให้มนุษย์มีจิตใจโหดร้าย ทารุณ ขาดคุณธรรม ไม่มีสัจจะ พูดโกหก หลอกลวง ไม่สัตย์ซื่อ นับแต่นี้ไปข้างหน้า จะเป็นผู้ใดก็ตาม หากมาเป็นเจ้าเมืองนี้แล้วขอให้มีความเดือดร้อนหายนะ ต่างๆ นานา เถิด”
เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้ว ก็สิ้นลมหายใจ นางบัวคำผู้เป็นมารดา ได้ทราบว่า สามีเสียชีวิต จึงได้ต่อว่าท้าวลินทองผู้เป็นบุตร ว่าทรมานบิดาของตนถึงแก่ความตาย ท้วลินทองไม่พอใจ จึงฆ่ามารดาของตนอีกคน จากนั้นท้าวลินทองก็ขึ้นครองเมืองคันธาธิราชสืบมา นับแต่ที่ท้าวลินทองครองเมือง ทำให้บ้านเมือง มีแต่ความระส่ำระสาย ประชาราษฎร์ได้รับความเดือดร้อน ทำให้ท้าวลินทองไม่สบายใจ จึงหาโหรมาทำนาย ซึ่งเป็นโหรจากเมืองพิมาย โหรทำนายว่า ท้าวลินทอง ได้ทำบาปกรรมไว้มาก และผลจากการอธิษฐานของบิดา และยังได้ฆ่ามารดาของตน ทั้งจะล้างบาปได้ ให้สร้างพระพุทธรูป เพื่ออุทิศบุญกุศลทดแทนคุณบิดามารดา ท้าวลินทองจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้น 2 องค์ เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา พระพุทธรูปองค์หนึ่ง สร้างทดแทนคุณมารดา สร้างที่นอกเขตกำแพงเมืองทางทิศอุดร คือพระพุทธรูปมิ่งเมือง มีหน้าตาคล้ายมารดา ประดิษฐานอยู่ที่วัดสุวรรณาวาส และสร้างพระพุทธรูปองค์ที่สอง เพื่อทดแทนคุณบิดา สร้างขึ้นในกำแพงเมือง มีลักษณะหน้าตาคล้ายบิดา ประดิษฐานที่วัดบ้านสระ (หรือวัดพุทธมงคล) ซึ่งทั้งสององค์ ผินพักตร์ไปเบื้องทักษิณทิศ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ความกระวนกระวายใจก็มิได้เบาบางลง
จากนั้นท้าวลินทองก็ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน พอดีโหรจากเมืองพิมายเดินทางผ่านมา และขอเข้าทำนายดวงชะตาชีวิต ของท้าวลินทอง ได้ทำนายว่า ท้าวลินทองจะตายภายใน 7 วัน ท้าวลินทองได้ยินถึงกับบันดาลโทสะ สั่งประหารชีวิตโหรทันที แต่พวกข้าราชการได้ปรึกษาขอไว้ชีวิตโหร จึงได้ทำนายต่อไปว่า หากท้าวลินทองสร้างพระพุทธรูปปางพุทธไสยาสน์ ด้วยทองคำหนักเท่าตัว ขึ้นอีกองค์หนึ่ง ความทุกข์ร้อนที่มีอยู่ก็จะบรรเทาลง ท้าวลินทอง จึงได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ด้วยทองคำ ตามคำทำนายของโหรขึ้น แล้วสร้างพระอุโบสถ ขึ้นเพื่อครอบองค์พระไว้ แต่ด้วยบาปกรรมมีมาก จึงสร้างไม่สำเร็จ
ท้าวลินทองก็ได้ถึงแก่ความตาย แต่ก่อนสิ้นใจ ท้าวลินทองได้อธิษฐานว่า “ขอพระพุทธรูปทองคำอย่าให้คนพบเห็นเป็นอันขาด หากผู้ใดมีเคราะห์กรรมได้พบเห็น ขอให้ผู้นั้นล้มป่วย พินาศฉิบหาย และถึงแก่ความตาย” ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีผู้ใด ได้พบเห็นพระอุโบสถ(พระพุทธรูปทองคำ) นั้นเลย กาลล่วงเลยมานานจนเกิดเป็นป่าร้าง ต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ พระพุทธรูปทองคำ ถ้าผู้ใดชะตาถึงฆาต พบเห็น ก็เกิดอาเพทป่วยไข้ถึงตายทุกราย ความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เล่าลือ ตราบเท่าทุกวันนี้

#นิทานพื้นบ้าน #ตำนาน #เมืองคันธาธิราช #กันทรวิชัย

show more

Share/Embed