อย่าบริหารเวลา ถ้าอยาก productive แต่ให้บริหารพลังงานแทน

ชีวิตเรา เหมือนการวิ่งทางไกล หลายคนเลยใช้ชีวิตเหมือน การวิ่งมาราธอน
แต่นักวิ่งระยะสั้น มีพลังมากกว่านักวิ่งมาราธอน
เพราะยังไม่เหนื่อยล้า และเห็นเส้นชัยอยู่ตรงหน้า

ทั้งๆ ที่การวิ่งระยะสั้น หลายครั้ง รวมระยะทางกัน ก็เท่ากับวิ่งมาราธอน
ทำไมเราถึงไม่เปลี่ยนการทำงานอันยาวนาน ที่เหมือนการวิ่งทางไกล ให้เป็นการทำงานช่วงสั้นๆ แบบวิ่งระยะสั้น แล้วพัก หลายๆครั้ง เราก็สามารถทำงานจบระยะมาราธอนได้ แบบพุ่งทะยาน อย่างมีพลัง

Jim Loehr และ Tony Schwartz ผู้เขียน The Power of Full Engagement สังเกตนักเทนนิสที่ชนะ และที่แพ้ ในการแข่งขัน จำนวนมาก พบว่าขณะเล่นใน match นักเทนนิส ที่ชนะ และแพ้ มีพฤติกรรมไม่ต่างกันเลย

แต่ในช่วงพัก นักเทนนิสที่ชนะ มักจะสามารถ disengage ปรับอารมณ์ออกจากเทนนิสได้ ทำให้ผ่อนคลาย จนอัตราการเต้นของหัวใจ (ชีพจร) ลดลงในระยะเวลาอันสั้น ในขณะที่นักเทนนิสที่แพ้ ไม่สามารถทำได้

บริษัทที่จีน ก็เชื่อเรื่องการพัก จึงให้พนักงานนอนกลางวัน ช่วงพักเที่ยง เพื่อ disengage จะได้ฟื้นตัว จะได้มีพลังงานพร้อมพุ่งทะยาน fully engage ในช่วงบ่ายอีกครั้ง

แล้วเราจะบริหารพลังงานยังไงให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด
มีหลักการ 4 ข้อ

หลักการข้อที่ 1: Full engagement ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ได้มาจาก กาย ใจ และเป้าหมายของชีวิต

หลักการข้อที่ 2: พลังงาน เมื่อใช้ไป ก็ลดลงไปเรื่อยๆ จนหมด เราจึงต้องมีการเติมพลังงานกลับมาเสมอ

หลักการข้อที่ 3: เราต้อง push beyond limit เพื่อเพิ่มความทนทานของตัวเอง ด้วยการฝึกอย่างเป็นระบบ เหมือนที่นักกีฬามืออาชีพทำ

หลักการข้อที่ 4: Positive Energy Rituals สร้างความเคยชินในการเติมพลังงานเชิงบวก

ฟังเต็มๆ ได้ในคลิปค่ะ

#CareerQandAbyCareerVisa #BookSummary #ThePowerofFullEngagement #เอ็มสรุป #JimLoehr #TonySchwartz #Sprint #marathon #TimeManagement #EnergyManagement #บริหารเวลา #บริหารพลังงาน #MThirayaSpeaker #MtheTrainer