วัดนางตะเคียน ต.คลองเขิน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกันมากอีกวัดหนึ่ง เพราะมีเรื่องราวทางความเชื่อ ซึ่งผมขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะครับ ทั้งนี้ผมได้นำเสนอตามคำบอกเล่าที่บอกต่อกันมาเท่านั้นครับ

ข้อมูลจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงครามได้ให้ข้อมูลไว้ว่า วัดนางตะเคียน สันนิษฐานว่า แรกก่อตั้งวัดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดเทพธาราม ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อ วัดนางตะเคียน เพราะภายในวัดมีต้นตะเคียนคู่สองต้นคู่กัน และบริเวณใกล้เคียงกับวัด ทางทิศตะวันออกมีคลองย่อย ลัดจากคลองแม่กลองตรงข้ามวัดไปออกคลองท่าคา อ.อัมพวา คลองนี้ชื่อว่า “คลองนางตะเคียน” จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดนางตะเคียนในปัจจุบันนี้

ในวันที่ผมเดินทางไปนั้น มีปริมาณผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะที่วัดแห่งนี้มีเรื่องราวความเชื่อและมีโบราณสถานเป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไป

จุดสังเกตที่มีผู้คนมากคือบริเวณรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ และรูปปั้นนางยักษ์ สำหรับท้าวเวสสุวรรณผมเชื่อว่า หลายท่านคงรู้จักและคุ้นเคยกันดี เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นกระแสในการสักการะค่อนข้างมาก แต่รูปปั้นนางยักษ์เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่เป็นแรงดึงดูดของวัดแห่งนี้เช่นกัน ซึ่งผมขอให้ท่านใช้วิจารณญาณในการรับชมต่อไปครับ

เนื่องด้วยในสมัยก่อน มีการสร้างรูปปั้นมากมายในวัด ไม่ว่าจะเป็น ยักษ์ ฤาษี ฯลฯ ต่อมาน้ำเซาะตลิ่ง ทำให้รูปปั้นต่างๆต้องจมลงสู่คลองแม่กลอง

จนกระทั่งราวปี พ.ศ.2551 มีชาวบ้านคนหนึ่งฝันเห็นยักษ์ตนหนึ่งจมใต้น้ำนอนหนาวอยู่นานหลายสิบปี จึงได้นำความไปบอกเล่า และได้ปรึกษากันให้มีนักประดาน้ำลองค้นหา ปรากฏว่ามีการค้นพบรูปปั้นยักษ์จมอยู่กลางคลอง ลักษณะอุ้มบุตรแต่ไม่มีเศียร จึงได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นมา และสร้างเศียรใหม่ขึ้นทดแทน ปัจจุบันได้นำมาประดิษฐานไว้ด้านหน้าวิหารโบราณของวัด และแน่นอนว่า ต่อมามีการบนบานเรื่องโชคลาภ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน มีคนที่สมปรารถนาได้บอกกล่าวกันปากต่อปาก จึงมีผู้คนที่เชื่อในเรื่องเร้นลับ เดินทางไปท่องเที่ยวกันมากมาย

และอีกจุดหนึ่งคือ รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ก็เป็นจุดที่มีผู้คนเดินทางไปสักการะมาก จะอยู่บริเวณด้านหน้าอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ด้านหน้ามีพาไลยื่นออกมา หน้าบันเป็นปูนปั้นลวดลายทิวทัศน์ ภูเขา ดอกไม้ ซึ่งผู้คนต่างเดินทางไปสักการะองค์ท้าวเวสสุวรรณเป็นจำนวนมาก และเข้าไปในอุโบสถเก่าเพื่อสักการะพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ภายในวัดยังมีความเก่าแก่อีกหลายอย่างเช่น ศาลาท่าน้ำ ซึ่งมีอยู่หลายหลัง และเจดีย์รายรอบอุโบสถเก่า ที่มีต้นไม้ขึ้นคลุม

จากนั้นผมได้เดินดูรอบๆอุโบสถ ก็พบว่ามีเจดีย์เก่า และเจดีย์อัฐิมากมายหลายองค์ รวมถึงปรางค์ เจดีย์บางองค์ก็พังไปตามสภาพกาลเวลา

จุดสุดท้ายที่ผมเดินไปชมคือ วิหารจัตุรมุข ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมไปมาก เป็นอาคารเล็กๆก่ออิฐถือปูน หลังคาเครื่องบนเป็นไม้ มุงกระเบื้องดินเผายังมีสภาพหลงเหลือให้ได้ชม หน้าบันไม้แกะสลักลวดลายก้านขด ผนังมีประตูทางเข้าทั้งสี่ด้าน โดยรอบวิหารมีกำแพงแก้วเตี้ยๆล้อมรอบ

ผมได้เดินดูโดยรอบ เพื่อหาความเป็นสมัยอยุธยาตามคำบอกเล่า ได้เห็นซากชิ้นพระพุทธรูปหินทรายแดง ภายในวิหาร ซึ่งน่าจะเป็นเพียงโบราณวัตถุเพียงอย่างเดียวที่อาจจะมีอายุถึงสมัยอยุธยา ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นโบราณวัตถุของวัดแต่แรกหรือไม่ แต่โดยรวมของสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ ผมยังไม่พบรูปแบบของสมัยอยุธยาครับ จึงสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์

วัดนางตะเคียน เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกันมาก จากกระแสความเชื่อ ความศรัทธา และความงดงามของโบราณสถาน จึงขอเรียนเชิญไปท่องเที่ยวศึกษากันนะครับ

ช่องทางติดตามและข่าวสารของช่อง FaithThaiStory
Facebook Page ภารกิจเที่ยววัด
  / faith108  
Facebook กลุ่มเที่ยววัดและโบราณสถาน
  / 407945966082908  
Facebook กลุ่มสรรพศาสตร์เรื่องราว ถิ่นลพบุรี สระบุรี นครนายก
  / 146394230592110  

เว็บไซต์หลัก
https://www.faiththaistory.com

YouTube Channel
FaithThaiStory (ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม)
   / faiththaistory  
LoveThaiVariety (ไลฟ์สไตล์)
   / lovethaivariety  

Line official Account - FaithThaiStory
https://lin.ee/5KDlrIa
Instagram
  / tum.faiththaistory  
TikTok
  / tum_faiththaistory