โรสแมรี่ หอมดี มีไว้คู่ครัว ดินดี มีแดด ตัดได้ทั้งปี Salvia rosmarinus หรือ Rosemary
Muuyehn Studio Muuyehn Studio
260K subscribers
136,786 views
4.8K

 Published On May 4, 2021

๐ โรสแมรี่

๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Salvia rosmarinus หรือ Rosmarinus officinalis
ชื่อสกุล “Salvia” มาจากภาษาละติน “Salveo” มีความหมาย "เพื่อการรักษาหรือเพื่อสุขภาพ" ในการอ้างอิงถึงคุณสมบัติการรักษาทางการแพทย์ที่อ้างว่าเกิดจากพืชบางชนิดในสกุลนี้
สำหรับชื่อชนิดพันธุ์ “Rosmarinus” หมายถึง "น้ำค้างแห่งท้องทะเล" เป็นการอ้างอิงถึงที่อยู่อาศัย เป็นถิ่นกำเนิดของพืชสายพันธุ์นี้
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Rosemary ชื่อสามัญ Rosemary การเรียกชื่อจากชนิดพันธุ์ มิได้หมายความถึง "rose of Mary” หรือ "กุหลาบแห่งแมรี่"

๐ ชนิด (Type): ไม้เนื้ออ่อนมีอายุอยู่ได้หลายปี (Herbaceous perennial) จัดเป็นพืชสมุนไพร (Herb) ด้วย
๐ วงศ์ (Family): Lamiaceae อยู่ในวงเดียวกันกับต้นกะเพรา ที่นำมาประกอบอาหาร
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : แอฟริกาตอนเหนือ เอเชียตะวันตก และทางตอนใต้ของยุโรป โรสแมรี่มีถิ่นกำเนิดในเขตแห้งแล้งและเขตพื้นที่ภูเขาในแถบเมดิเตอร์เรเนียนของยุโรปใต้สู่เอเชียตะวันตก
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 50-180 เซนติเมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 50-120 เซนติเมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): มิถุนายน ถึงกรกฎาคม หากปลูกในพื้นที่เขตหนาวอาจจะออกดอกในช่วงมกราคมถึงเมษายน ออกดอกกระจุกอยู่ตามปลายยอด และตามซอกกิ่งกลีบดอกสีม่วงอ่อน ดอกดึงดูดผีเสื้อ และพึ่งเพื่อช่วยในการผสมเกสรได้ดี
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวันหรือแดดบางส่วนของวัน เป็นต้นไม้ที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในร่ม ควรหลีกเลี่ยงการปลูกเลี้ยงในร่ม
๐ ความต้องการน้ำ (Water): ต้องการน้ำน้อยจนถึงปานกลาง เป็นพืชที่ทนแล้งหรือทนการขาดน้ำหลายวันติดต่อกันได้
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ การใช้ไปเพื่อเป็นเครื่องเทศในการประกอบอาหารจะเป็นการตัดแต่งทรงพุ่มไปด้วยในตัวทำให้เกิดการแตกกิ่งใหม่ออกมาเรื่อย ๆ
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ไม่นิยมนำมาเป็นต้นไม้ในการประดับตกแต่งมากนัก ส่วนใหญ่ใช้ในการประกอบอาหาร สำหรับในไทยแนะนำให้ปลูกเป็นไม้กระถางสวนครัวจะทำให้ควบคุมปัจจัยที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตได้ง่ายกว่าการปลูกลงดินโดยตรง นอกจากนี้สามารถนำไปปลูกประดับในพื้นที่สวนหิน หรือสวนดาดฟ้าที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เป็นการปลูกเน้นทรงพุ่มกลมตามธรรมชาติโดยไม่ต้องทำการตัดแต่งกิ่งบ้านเรือนในเขตพื้นที่ชายทะเลสามารถปลูกโรสแมรี่ได้
ใบใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว สำหรับใบและดอกมีการสกัดน้ำมันเพื่อทำน้ำหอมสบู่ แชมพู โลชั่น และอุปกรณ์อาบน้ำอื่น ๆ
๐ ใบไม้ (Leaf): เป็นไม้ไม่ผัดใบ มีใบเดียวยาวรูปเข็มยาวปลายใบมน เส้นกลางใบชัด ผิวใบมัน ด้านล่างมีผิวใบสาก ใบมีกลิ่นหอมมีเสน่ห์เฉพาะตัว

๐ การเพาะปลูก (Culture)
ด้วยถิ่นกำเนิดในพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้งและมีแดดอย่างเพียงพอ โรสแมรี่จึงเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่การปลูกที่ได้รับแดดตลอดทั้งวันได้รับน้ำน้อยเพียงพอต่อการรักษาความชื้นของต้นเท่านั้น วัสดุปลูกควรเป็นดินที่มีการระบายน้ำดีอาจมีส่วนผสมของดินร่วนผสมดินทราย ดินมีpH เป็นกรดเล็กน้อย จนถึงปานกลาง เป็นพืชที่ทนทานต่อการได้รับน้ำน้อย และทนทานต่อการตัดแต่งกิ่งเพื่อนำไปใช้ในการปรุงอาหาร การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้เกิดการแตกจริงหรือยอดใหม่อย่างสม่ำเสมอ การขยายพันธุ์ทำได้ง่ายโดยการใช้เมล็ด หรือการปักชำ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการปักชำดินและปักช้ำน้ำซึ่งงอกรากได้ไม่ยาก

๐ ปัญหา (Problems)
โรสแมรี่มีความไวต่อโรคราแป้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพชื้นเมื่อการไหลเวียนของอากาศไม่ดีพอ นอกจากนี้อาจพบอาการรากเน่า อันเป็นผลมาจากการได้รับน้ำมากเกินไป การปลูกเลี้ยงในหน้าฝนควรมีหลังคาปกคลุมแต่ยังคงได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ข้อแนะนำในกรณีนี้ควรใช้วิธีการย้ายกระถางเป็นครั้งคราว สำหรับในพื้นที่เขตหนาวโรสแมรี่ไม่สามารถจะเติบโตได้ในฤดูหนาว นอกจากนี้การปลูกในพื้นที่กึ่งร่มอาจมีการถูกโจมตีโดยเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง แมลงหวี่ขาว และไรแมงมุม

๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง

๐ Muuyehn Stuido หรือ มือเย็นสตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะจ๊ะ

show more

Share/Embed