รถใช้งานมาแล้ว 54 ปี เปิดผังบัสทัศนศึกษา กู้ภัยเล่าครูเสียสละ ชี้ถ้าประตูฉุกเฉินเปิดได้ น่าจะรอดหมด
เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเล่าเช้านี้
11.4M subscribers
11,053 views
547

 Published On Oct 1, 2024

เปิดผังรถบัสมรณะ! พบประตูฉุกเฉินมีเพียง 1 ประตู - ขณะที่ ผบช.พฐ. ยืนยันพบศพในรถบัส 23 ศพ ส่วนใหญ่อยู่หลังรถ ลักษณะไหม้เสียหาย เบื้องต้นเป็นเพศชาย 11 ร่าง เพศหญิง 7 ร่าง และยังพิสูจน์ไม่ได้อีก 5 ร่าง – น้ายอด กู้ภัย เล่า ครูเสียสละมาก ดันเด็กไปด้านหลัง ลั่นหากประตูฉุกเฉินเปิดได้ควรรอดกันหมด

กรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียน วัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี​ กำลังเดินไปทางไปทัศนศึกษา ซึ่งเกิดเหตุ บริเวณเลนขวาสุดของช่องเลนด่วน ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงหัวโค้งหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หรือห่างจากด้านหน้าเซียรังสิต ฝั่งขาเข้า กทม. ประมาณไม่ถึงกิโลเมตร

ภายหลังจากที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พล.ต.ท กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานขึ้นไปตรวจสอบบนซากรถ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมร่วมวางแผนกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกู้ภัยในการเข้าตรวจสอบซากรถ เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตลงมา โดยให้ทหารอากาศนำสแลนสีเขียวมาปิดกั้น ป้องกันไม่ให้ภาพที่ไม่เหมาะสมปรากฏต่อสาธารณชน

เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากรถบัสได้ ก่อนทยอยนำร่างขึ้นรถกู้ภัยส่งมาที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ

เวลาประมาณ 17.30 น. สามารถกู้ร่างได้ทั้ง 23 ร่าง นำส่ง รพ.ตำรวจเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป

ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยภายหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถลำเลียงร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ว่า การตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ล่าสุด สามารถลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมด 23 ศพ เป็นเพศชาย 11 ร่าง เพศหญิง 7 ร่าง และยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ 5 ร่าง

โดยทั้งหมดได้ลำเลียงส่งไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลตามขั้นตอน ซึ่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำว่า ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่สถาบันนิติเวช เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับญาติญาติผู้เสียชีวิต เมื่อพิสูจน์ศพได้แล้วว่าเป็นใคร ก่อนเร่งคืนให้กับญาติผู้เสียชีวิตนำไปทำพิธีทางศาสนาโดยเร็วที่สุด

โดยจากการตรวจสอบศพที่พบรถบัสที่เกิดเหตุ แพทย์นิติเวช ระบุเบื้องต้นว่า เป็นศพขนาดใหญ่ พบศพที่โซนกลางไป แต่ส่วนใหญ่อยู่ท้ายรถบัส สภาพศพถูกไฟไหม้เสียหาย จึงยังไม่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน อาจจะเป็นเด็กที่ตัวใหญ่ก็ได้ จึงต้องรอพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนจากการตรวจสอบรถบัสที่เกิดเหตุ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด ในเบื้องต้นยังเน้นย้ำการถ่ายภาพศพ และตรวจสอบเกี่ยวกับศพ รวมถึงรีบเคลื่อนย้ายศพเพื่อนำไปส่งที่สถาบันนิติเวชก่อน

โดยยืนยันว่าจะตรวจสอบให้ละเอียดที่สุด เพื่อหาร่องรอยว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้จากบริเวณใดและเกิดจากสาเหตุใด ตลอดจนทรัพย์สินต่างๆที่อยู่ในตัวรถจะบ่งบอกได้ว่า รถมีมาตรการป้องกันเหตุฉุกเฉินหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง

เมื่อถามว่าภายในรถบัสมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ยังไม่พบ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานซักระยะก่อน รวมไปถึงตรวจสอบถังก๊าซของรถว่าต้นเพลิงมาจากไหนกันแน่

ด้าน น้ายอด จากร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบลักษณะของรถบัสดังกล่าวพบว่ามี 2 ชั้น มี 4 ประตู ซึ่ง 3 ประตูเปิดออกได้หมด ยกเว้นประตูฉุกเฉินด้านหลังฝั่งขวา

ทั้งนี้ แม้ว่า 3 ประตู จะเปิดได้ แต่ไฟโหมแรงมาก ทำให้หนีออกมาไม่ได้ ฝ่าออกมาไม่ได้ ซึ่งทั้ง 23 คน เบียดไปอัดกันอยู่ด้านหลัง ซึ่งน้ายอด และกู้ภัยอีกท่าน บอกว่า ครูเสียสละมาก ๆ เพราะครูดันเด็กไปไว้ท้ายรถ ซึ่งยังมองด้วยว่า หากประตูฉุกเฉินบานนั้นสามารถเปิดได้เด็กน่าจะรอดทั้งหมด

ทีมข่าวได้คุยกับนางสาวพรประภา อั๋นดอนกลอย อายุ 44 ปี ครูชั้นประจำชั้น ม.3 โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เล่าว่า โรงเรียนจัดรถบัสทั้งหมด 3 คัน ไปทัศนศึกษา ออกเดินทางจากโรงเรียนใน จ.อุทัยธานี ในเวลาประมาณ 05.30 น. และมีแวะทำกิจกรรมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเดินทางต่อมา เพื่อพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ กฟผ.นนทบุรี

จนกระทั่ง มาถึงจุดเกิดเหตุรถบัสคันที่ 2 ซึ่งในรถเป็นกลุ่มนักเรียนชั้นอนุบาล - ป.4 เกิดเสียงดังคล้ายยางระเบิดและรถไถลไปชนแบริเออร์ขอบทาง ต่อมาก็มีไฟลุกไหม้ โดยครูที่อยู่บนรถบัสคันที่ 2 รีบนำเด็กเล็กลงจากประตูด้านหน้า ส่วนตนเองนั่งอยู่ในรถรถบัสคันที่ 3 ขับตามหลังคันที่ 2 เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงได้ให้คนขับจอดและรีบวิ่งลงไปช่วยเหลือเด็กลงจากรถ

ขณะนั้น ไฟลุกท่วมรถแล้ว มีเด็กกระโดดลงมาจากรถ 3 คน (ป.1/ป.3/ม.3) ตนจึงรีบไปอุ้มเด็ก 2 คน ออกมาให้ห่างจากรถ ตนพยายามจะกลับไปช่วยเด็กบนรถอีก แต่ไฟโหมลุกไหม้รุนแรง ตำรวจบอกไม่ให้เข้าไปใกล้เพราะรถจะระเบิด ไรเดอร์ผ่านมาพอดีช่วยนำเด็กไปส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ก่อนที่ตนเองจะตามมาดูอาการเด็กที่โรงพยาบาล


อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)

วันที่ 2 ตุลาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok :   / morningnewsch3  

#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์

show more

Share/Embed